9 วัดจีนยอดนิยมในกรุงเทพ ไหว้เทพขอพร เสริมมงคลให้ชีวิต
ในเทศกาลวันไหว้บะจ่างที่ผ่านมา ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันที่ 22 มิถุนายน 2566 นับเป็นหนึ่งในสามเทศกาลสำคัญของลูกหลานชาวจีน ที่เหมือนกับเทศกาลตรุษจีนและเทศกาลไหว้พระจันทร์
ใครไม่สะดวกไหว้ในวันดังกล่าว แต่ยังอยากขอพรเทพเจ้าจีนเพื่อเสริมสิริมงคลให้กับชีวิต และยังไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนดี วันนี้ ทีมข่าวนิวมีเดีย พีพีทีวี ได้รวบรวมศาลเจ้าและวัดจีนยอดนิยม รอบกรุงเทพมหานครมาฝากกัน
วัดมังกรกมลาวาส (วัดเล่งเน่ยยี่)
วัดมังกรกมลาวาส หรือ วัดเล่งเน่ยยี่ ตั้งอยู่ย่านถนนเจริญกรุง กรุงเทพฯ เป็นวัดสำคัญที่ผู้เข้ามากราบสักกรบูชากันบ่อยๆ เนื่องจากมีความเชื่อว่าวัดแห่งนี้ ถือเป็น 1 ใน 3 วัดมังกร ซึ่งเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่ประกอบไปด้วยส่วนหัว ตัว และหาง โดยส่วนหัวของมังกรอยู่ที่นี่ จึงเป็นที่นิยมนั่นเอง
ปัจจุบันอายุยาวนานกว่า 100 ปีแล้ว คนไทยนิยมเข้ามากราบไหว้เทพเจ้า “ไฉ่ซิงเอี๊ยะ” เพื่อแก้ปีชงและทำบุญสะเดาะเคราะห์ อย่างไรก็ตามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ยังมีเทพเจ้าอีกหลายองค์ที่คนจีนนับถือ ทุกคนสามารถขอพรเรื่องที่แตกต่างกันไปได้ เช่น “พระโพธิสัตว์กวนอิม” ขอพรได้ตามสิ่งที่ปรารถนา หรือ “ฮั่วท้อเซียงซือ” ทุกคนสามารถขอพรเรื่องโรคภัยไข้เจ็บ
ศาลเจ้าพ่อเสือ เสาชิงช้า
ศาลเจ้าพ่อเสือ หรือทีชาวไทยเชื้อสายจีนนิยมเรียกกันว่า “ศาลตั๋วเหล่าเอี้ย” เป็นศาลเจ้าจีนสายลัทธิเต๋าที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงมากๆ อีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย โดยตั้งอยู่ที่ทางสามแพร่ง ถนนตะนาว กรุงเทพฯ
มีความเชื่อที่สืบต่อกันมาว่า หากใครที่กำลังประสบปัญหาทางธุรกิจ อยากจะขอพรในเรื่องการงานให้ประสบความสำเร็จ เสริมอำนาจบารมี หรือความร่ำรวยเงินทอง รวมถึงการสะเดาะเคราะห์ แก้ชง ถ้าได้มาไหว้ขอพรที่นี่อาจช่วยเสริมสิริมงคลให้กับชีวิตได้
ศาลเจ้าไต้ฮงกง พลับพลาไชย
ศาลเจ้าที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่แวะเวียนมาสักการะกราบไหว้ไม่เคยขาดสาย ซึ่งตั้งอยู่ที่ริมถนนพลับพลาชัย กรุงเทพฯ
ศาลเจ้าแห่งนี้เกิดจากความศรัทธาที่มีต่อ “ไต้ฮงโจวซือ” หรือ “ไต้ฮงกง” หรือบ้างก็เรียกว่า “หลวงปู่ไต้ฮงกง” ที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นนักบุญผู้ยากไร้และศพไร้ญาติ อันเป็นจุดเริ่มต้นของมูลนิธิป่อเต๊กตึ้งที่อยากสืบสานความดีของหลวงปู่ฯ ผ่านรูปแบบงานสังคมสังเคราะห์ด้วย
สำหรับประวัติโดยสังเขปของหลวงปู่ฯ เริ่มมาจากการที่ท่านได้มาธุดงค์ที่เมืองแต้จิ๋ว ซึ่งมีภัยพิบัติบ่อยครั้งผู้คนล้มตายจำนวนมาก ท่านได้ชักชวนสานุศิษย์สร้างศาลาให้คนเจริญจิตภาวนา และแจกจ่ายยารักษาโรคในช่วงที่เกิดโรคระบาดหนัก อีกทั้งยังชวนสานุศิษย์ออกเก็บศพโดยไม่รังเกียจ และรวบรวมเงินเพื่อทำโลงศพให้ผู้ยากไร้ก่อนนำไปฝัง
นอกจากนี้ ในเมืองมีแม่น้ำเหลียงเจียงที่เชี่ยวกราก ซึ่งผู้โดยสารเรือประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำบ่อยครั้ง หลวงปู่ฯ ได้ชักชวนชาวบ้านช่วยแก้ปัญหาดังกล่าว นำเรือต่อกันเป็นสะพาน ใช้เรือแล่นเลียบสะพานเพื่อให้คนปลอดภัยจากการข้ามฟาก และสร้างสะพานหินข้ามแม่น้ำจนสำเร็จ เป็นที่มาให้ท่านได้รับการขนานนามว่านักบุญผู้ยากไร้และศพไร้ญาตินั่นเอง
กระทั่งเมื่อหลวงปู่ฯ มรณภาพ ในเมืองไทยได้มีศิษยานุศิษย์ชาวจีนได้อัญเชิญรูปจำลองหลวงปู่ไต้ฮงกงมาประดิษฐานที่ร้านกระจก ย่านวัดเลียบ ก่อนจะย้ายไปประดิษฐาน ณ สุสานวัดดอนกุศล และ มาประดิษฐานอยู่ ณ ศาลเจ้าไต้ฮงกง ริมถนนพลับพลาชัย กรุงเทพฯ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น